เจียวมี่
เจียวมี่
คำอธิบาย เจียวมี่
หญิงสาวทะลุมิติจากยุคปัจจุบันมายังยุคจีนโบราณ
หมวดหมู่ : นิยาย แฟนตาซี
นับตอน : 1
สถานะ : จบแล้ว
#เจียวมี่
Summary

ตอนที่ 1 ทะลุมิติมากับระบบยอดหญิง

 

 

 

“เจียวมี่ นี่เจ้าจะมานอนตื่นสายแบบนี้ไม่ได้นะ…” เสียงแหลมแสบแก้วหูตะโกนเรียกหญิงสาวที่นอนอยู่ภายในห้อง คนถูกเรียกตื่นขึ้นมาด้วยความรำคาญใจ สายตาคู่งามสบเข้ากับหลังคากระเบื้องที่มีลอยแตกพร้อมกับมีรูเล็กๆ ที่แสงส่องลอดลงมา ถ้าเกิดว่าฝนตก ก็คงจะมีหยดน้ำตกใส่เธอเป็นแน่

 

 

เอ๊ะ ทำไมห้องนอนสุดลักซูรี่ของเธอถึงได้มีรูแบบนี้ละ!

 

 

เจียวมี่หันมองรอบตัวด้วยความงุนงง เมื่อมองเห็นสภาพห้องเธอได้แต่อ้าปากค้างตาเบิกโพลงราวกับสติได้หลุดไปแล้ว

 

 

“นี่ ออกมาทำงานช่วยกัน เจ้าลุกมาเดี๋ยวนี้นะ อย่ามาทำตัวขี้เกียจสันหลังยาว”

 

 

เสียงแสบแก้วหูของคนที่อยู่ด้านนอกดึงสติของหญิงสาวที่อยู่ภายในห้องให้กลับมาอีกครั้ง นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรกัน เธอมาอยู่ที่ไหน? เกิดอะไรขึ้น? ระหว่างที่เจียวมี่กระวนกระวายอยู่นั้น ก็มีเสียงคล้ายการแจ้งเตือนข้อความในคอมพิวเตอร์ดังขึ้นพร้อมกับปรากฏภาพหน้าจอโฮโลแกรมโปร่งแสงและมีข้อความว่า

 

 

[ติ้ง! ระบบยอดหญิงแห่งหมู่บ้านป่าสามฤดู กำลังติดตั้ง…เปิดโหมดทักษะ]

 

 

เจียวมี่ขมวดคิ้วมุ่น เธออ่านข้อความที่ปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ ยิ่งอ่านหัวใจยิ่งเต้นระรัวราวกับมันจะหลุดออกจากอก บนหน้าจอโฮโลแกรมปรากฏสถานที่สวยงามแปลกตา ด้านล่างนั้นมีกล่องข้อความบอกรายละเอียดต่างๆ เอาไว้

ระบบยอดหญิงแห่งหมู่บ้านป่าสามฤดูเป็นของที่ท่านเทพสร้างขึ้นและท่านได้มอบมันให้กับเจียวมี่ เพื่อเป็นตัวช่วยในการใช้ชีวิต ยุคที่เธอทะลุมิติมานั้นคือยุคจีนโบราณหลายร้อยปีก่อนซึ่งไม่ถูกระบุไว้ในประวัติศาสตร์

 

 

ร่างที่เธอได้เข้ามาอยู่มีนามว่า โจวเจียวมี่ นับว่าเป็นหญิงงามของหมู่บ้าน ด้วยรูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ผิวพรรณขาวราวกับน้ำนม ดวงหน้าเรียวงาม ดวงตาหวานซึ้งราวกับน้ำผึ้งเดือนห้า หน้าตาผิวพรรณของนางงดงามราวกับไม่ใช่หญิงสาวชาวป่า โจวเจียวมี่จึงนับว่าเป็นยอดหญิงงามของหมู่บ้านแห่งนี้

 

 

บิดาของนางเป็นช่างไม้ฝีมือดี ครอบครัวของนางจึงมีความเป็นอยู่ที่ดี เจียวมี่เป็นบุตรคนที่สาม นางมีพี่ชายสองคน และน้องชายอีกหนึ่งคน แต่เดิมร่างกายของนางอ่อนแอตั้งแต่เกิด จึงถูกเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงบ ถูกเอาอกเอาใจมาโดยตลอด จึงทำให้นางมีนิสัยเกียจคร้านและเอาแต่ใจ

 

 

ที่น่าตกใจคือร่างนี้ก็คือนางในอีกมิตินึง พอนางสิ้นอายุขัยจากยุค 2022 ท่านเทพจึงนำดวงวิญญาณของนางมายังร่างนี้ เท่ากับว่า นางทะลุมิติมาเป็นตัวเองในยุคจีนโบราณพร้อมกับมิติและระบบยอดหญิงที่ถูกสร้างขึ้นตามที่นางได้ขอพรเอาไว้

 

 

นางไปขอพรเอาไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่นะหรือ

 

 

ก็ต้องย้อนกลับไปตอนที่นางฝัน…

 

 

ท่ามกลางขุนเขาและพืชพรรณนานาชนิด แม่น้ำสายยาวพาดผ่านทุ่งนาและพื้นที่เพาะปลูก เหล่าปลาแวกว่ายไปตามลำธาร หน้าบ้านหลังน้อย มีชายชราในชุดสีทองยืนพินิจหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนจะเอ่ยถามเสียงราบเรียบว่า

 

 

“ถ้าเจ้าต้องไปอยู่ในที่ห่างไกลและสามารถขอพรได้ เจ้าจะขอสิ่งใด”

 

 

“ถ้าไม่รู้เลยว่าต้องไปอยู่ในสถานที่แบบไหน ฉันคงต้องขอปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิต อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และคงขอทักษะความสามารถ เพื่อจะได้มีความรู้หาเลี้ยงชีพได้อยู่ที่ไหนก็ไม่อดตายค่ะ”

 

 

“เลือกได้ดี ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้พรนั้นแก่เจ้า”

 

 

นั้นคือความฝันก่อนที่เจียวมี่จะพบว่าตัวเองได้ทะลุมิติมายังที่แห่งนี้ ไม่คิดว่าพอตื่นมาทุกอย่างจะกลายเป็นเช่นนี้ จะหัวเราะก็ไม่ได้…จะร้องไห้ก็ไม่ออก จากคอนโดหรูใจกลางกรุงมาสู่บ้านอิฐหลังคามีรูในหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีชื่อว่า หมู่บ้านป่าสามฤดู เมืองหลีหง แคว้นเป่ยหยาง

 

 

พรที่เจียวมี่เอ่ยขอ ท่านเทพได้ประทานมาในรูปแบบระบบยอดหญิงพร้อมกับมิติที่มีพื้นที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา มีพื้นที่ให้เพาะปลูก มันก็คือสถานที่ที่นางฝันว่าได้พบกับท่านเทพนั้นเอง และระบบยอดหญิงคือระบบที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อให้นางได้พัฒนาทักษะต่างๆ ในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทักษะการทำอาหาร ทักษะการหาของป่า ทักษะการค้าขาย ทักษะการตัดเย็บ ทักษะงานบ้าน ทักษะเพาะปลูก ทักษะเลี้ยงสัตว์ ทักษะเลี้ยงบุตร ทักษะเลี้ยงดูสามี…

 

 

เดี๋ยวนะ! พออ่านมาถึงตรงนี้ชักจะตะหงิด เลี้ยงบุตรพอเข้าใจได้ว่ามันเป็นหน้าที่ของมารดา แต่การเลี้ยงดูสามีนี้มันอะไรกัน! ในยุคนี้ต้องเป็นสามีเลี้ยงดูภรรยามิใช่หรอกหรือ?

 

 

แต่ยังไม่ทันที่เจียวมี่จะได้เอ่ยถามระบบ เสียงแหลมแสบแก้วหูก็ดังขัดขึ้นอีกครั้ง

 

 

“นังเจียวมี่ แกออกมาเดี๋ยวนี้นะ”

 

 

ด้วยความไม่เคยถูกใครมากระทำกิริยาเช่นนี้ เจียวมี่จึงเปิดประตูออกไปด้วยอารมณ์ไม่ค่อยจะดีนัก

 

 

“เจ้าเป็นใคร” เจียวมี่เอ่ยถามเสียงเรียบ พร้อมกับมองสำรวจสตรีตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

 

 

โจวจิงอี้ถึงกับชะงัก ปากที่กำลังจะพ่นวาจาร้ายกาจออกมาถึงกับอ้าค้าง ในใจหวั่นเกรงกับท่าทางของเจียวมี่ไม่น้อย

 

 

“ข้าถามว่าเจ้าเป็นใคร ทำไมไม่ตอบล่ะ” เมื่อคนตรงหน้าไม่ปริปาก นางจึงถามย้ำเสียงเข้มขึ้น

 

 

“จะ..เจ้าเสียสติไปแล้ว” ใช่ นางต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆ หึ สมน้ำหน้า

 

 

“เจ้านั้นแหละที่เสียสติ ข้าถามเพราะอยากรู้ว่าเจ้าใช้สิทธิ์อะไรในการมาตะโกนด่าข้าฉอดๆ เจ้ากล้าดียังไง” หลังจากที่ได้รับรู้เรื่องราวทุกอย่างของร่างนี้ เจียวมี่จึงตอบโต้อย่างไม่เกรงกลัว หึ ก็แค่ลูกพี่ลูกน้องที่ชอบมาหาเรื่องรังแกนาง แต่ขอโทษเถอะ นางหาได้รังแกง่ายๆ ไม่

 

 

“หึ ฝากไว้ก่อนเถอะ”

 

 

โจวจิงอี้เป็นบุตรสาวของท่านลุงใหญ่ มักจะหาเรื่องมาก่อกวนเจียวมี่อยู่เสมอเพราะนึกอิจฉาในความงามของเจียวมี่ ทุกครั้งร่างเดิมไม่ค่อยจะตอบโต้ เพราะนึกรำคาญขี้เกียจเถียงกับคนเช่นนี้ พอตัวก่อกวนวิ่งแจ้นหนีไป เจียวมี่จึงรีบกลับเข้าไปในห้อง นางทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างแรงเพราะความเคยชินกับที่นอนนุ่มๆ

 

 

“โอ้ย เจ็บ” มือเรียวยกขึ้นลูบสะโพกอย่างปลอบใจตนเอง หันองรอบห้องยิ่งน้ำตาจะไหล

 

 

เจียวมี่ปวดใจมิน้อย จากที่เคยอยู่คอนโดสุดหรู ห้องกว้างขวาง เตียงนอนแสนนุ่ม มีเครื่องอำนวยความสะดวกมากมาย มีห้องแต่งตัวเป็นสัดส่วนสวยงาม ทั้งกระเป๋าแบรนด์เนม ทั้งเครื่องประดับ หรือแม้แต่สีชุดยังแขวนไล่เชดสีจากอ่อนไปเข้ม มายามนี้ในห้องนอนมีเพียงเตียงไม้และฟูกแข็งๆ ผ้าห่มผืนบาง ตู้เสื้อผ้าหลังเล็ก

 

 

เจียวมี่กวาดสายตามองทุกอย่างก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ‘เฮ้อ ขอเวลาทำใจและปรับตัวหน่อยนะ’ ถึงแม้นางจะคิดเช่นนั้นแต่เจียวมี่ก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ หญิงสาวรีบเปิดระบบขึ้นมาเพื่อสอบถามข้อมูล เพราะจะได้เตรียมตัวรับสถานการณ์ต่อไป

 

 

“ระบบ ช่วยอธิบายทักษะและการใช้งานต่างๆ ที เหตุใดต้องมีทักษะเลี้ยงดูสามีด้วยเล่า”

 

 

“ตอบท่านผู้โชคดีที่ได้รับพรจากท่านเทพ ท่านสามารถเรียกข้าว่า เฉิงกง ส่วนทักษะที่ท่านได้เห็นก่อนหน้านี้คือทักษะเบื้องต้นที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตของท่าน และการเลี้ยงดูสามีก็นับว่าจำเป็นอย่างยิ่ง”

 

 

เสียงราบเรียบของระบบที่ตอบกลับมาราวกับคนไร้ความรู้สึก ก็แน่ละสิมันไม่มีความรู้สึก ทำเอาเจียวมี่ไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว มาถึงยังไม่ทันได้ทำอะไร ต้องมีสามีแล้วหรือ?

 

 

ไม่ต้องถามระบบให้ปวดใจ ภาพของชายหนุ่มคนหนึ่งก็แจ่มชัดขึ้นในความทรงจำ ชายหนุ่มผู้ซึ่งกำลังจะมาเป็นสามีของนาง!

 

 

“ข้าจำเป็นต้องแต่งงานกับชายผู้นั้นจริงๆ หรือ” เจียวมี่เอ่ยถามหวังจะมีทางออกอื่น

 

 

“เขาคือเนื้อคู่ของท่าน และท่านต้องเลี้ยงดูเขา นี้คือของขวัญสุดพิเศษที่ท่านเทพมอบให้แก่ท่าน”

 

 

ถามหรือยังว่าข้าอยากได้หรือไม่? แต่เอาเถอะ อย่างน้อยสามีก็หน้าตาหล่อเหลา ข้าพอรับได้! ไม่ใช่เจียวมี่มองคนที่หน้าตาอย่างเดียว ส่วนอื่นนางก็ยอมรับว่าเขาดูดีเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างสูงโปร่ง มีมัดกล้ามอย่างคนทำงาน แม้ผิวไม่ได้ขาวจัด แต่ก็ดูหล่อคมเข้ม นิสัยดูท่าก็น่าจะดี เสียอย่างเดียวคือจน

 

 

นางไม่ได้ดูถูกอะไรนะ เพียงแต่เจียวมี่เคยมีชีวิตที่ร่ำรวย พอทะลุมิติมาในร่างนี้ก็กลายเป็นว่าพอมีอันจะกิน ไม่ถึงกับเดือนร้อน แต่เมื่อนึกถึงชายหนุ่มที่จะมาเป็นสามี จากความทรงจำ บ้านที่เขาอยู่อาศัยแย่ยิ่งกว่าบ้านหลังนี้อีก ซึ่งถ้าเทียบกับชีวิตทั้งสองของนาง จึงดูยากจนกว่ามาก แต่นางก็เข้าใจได้ ในยุคสมัยนี้ถ้ารวยหน่อยก็พ่อค้า ขุนนาง ราชวงศ์ ชาวบ้านหรือก็แค่พออยู่พอกินกันเท่านั้น

 

 

เรื่องสามีนอกจากทำใจแล้วคงไม่สามารถทำอะไรได้อีก ไหนๆ ก็กล่าวว่าเป็นเนื้อคู่ข้าแล้ว ข้าจะรับเอาไว้ก็แล้วกัน เจียวมี่จึงหันไปสนใจมิติที่ท่านเทพให้มา

 

 

“ระบบข้าอยากเข้าไปในมิติ” เพียงแค่เอ่ยจบ ร่างของเจียวมี่ก็ปรากฏอยู่ในมิติ ภายในมิติเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ มีทั้งป่ารกทึบ และส่วนที่เป็นทุ่งหญ้า มีแม่น้ำสายยาวพลาดผ่านที่นางเองก็ไม่รู้ว่าต้นกำเนิดมาจากจุดไหน ที่เบื้องหน้าของนางมีบ้านหลังน้อยทำจากอิฐดูแน่นหนา ถูกทาทับสีขาว หลังคามุงกระเบื้องอย่างดี บ้านดูน่ารักรูปทรงสมัยใหม่เหมือนจะเป็นสไตล์มินิมอลมูจิ

 

 

ช่างถูกใจนางจริงๆ!

 

 

พอเข้ามาภายในมิติ ‘เฉิงกง’ ก็ทำหน้าที่อธิบายส่วนต่างๆ ราวกับเป็นไกด์นำเที่ยวมือหนึ่ง มิติแห่งนี้เป็นพื้นที่ที่มีพลังปราณบริสุทธิ์หนาแน่น สามารถใส่ของได้ไม่จำกัด โดยจะมีกล่องสมบัติวางอยู่หน้าบ้าน ภายในคือที่เก็บของต่างๆ อะไรก็ตามที่นางนำมาเก็บไว้มันจะถูกดึงไปเก็บที่นั้นและจัดแยกหมวดหมู่ให้โดยอัตโนมัติ เช่น ตอนนี้ภายในกล่องไม้ มีเมล็ดผักอยู่ 5 ชนิด มีน้ำแร่บริสุทธิ์อยู่ 5 ถัง มีเงินอยู่ 500 ตำลึงทอง มีสุดยอดตำราทำอาหารสำหรับแม่บ้านอยู่ 1 เล่ม มีผ้าอยู่ 5 ม้วนที่สามารถเลือกสีที่ต้องการได้ มีชุดเครื่องมือเย็บปักถักร้อย 1 ชุด แล้วก็มีอุปกรณ์เพาะปลูกและเครื่องมือที่จำเป็นไม่ว่าจะเป็นบัวรดน้ำ ส้อมพรวนดิน จอบ ขวาน เสียม ถุงดินสำหรับเพาะปลูกจำนวน 10 ถุง

 

 

ตอนนี้พื้นที่มิติสามารถใช้งานได้เพียง 20 ส่วน เพราะพื้นที่ส่วนที่เหลือจะถูกปิดกั้นไว้ไม่สามารถเข้าไปได้ จนกว่าเจียวมี่จะพัฒนาทักษะถึงคะแนนที่กำหนดในพื้นที่แต่ละส่วน กล่าวคือ อยากปลดล็อกหรือได้ของรางวัลจากระบบ เจ้าก็ต้องเหนื่อยหน่อยนะ!

 

 

นี่สินะ ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ นางยอมรับว่าท่านเทพคิดมาอย่างดี ถ้าให้อะไรมาครบหมด นางก็คงไม่มีความกระตือรือร้น แต่นี้มีของรางวัลเป็นตัวกระตุ้นชั้นดี

 

 

ไหนมาดูสิว่าตอนนี้พอทำอะไรได้บ้าง?

 

 

เจียวมี่พาตัวเองออกมาจากมิติ เพื่อเดินสำรวจรอบบ้านๆ จากความทรงจำพอรู้มาว่าชาวบ้านนิยมอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ อย่างที่บ้านตระกูลโจวก็อยู่ด้วยกันหลายคน ถ้าจะให้สาธยายก็คงนับตั้งแต่คุณปู่คุณย่าของร่างนี้ ครอบครัวลุงใหญ่อีก 3 คน ครอบครัวของนางอีก 4 คน ครอบครัวของลุงสามอีก 5 คน นับๆ แล้วก็คงจะเป็น 14 คน บ้างก็แยกบ้านออกไปเพราะแต่งงานมีครอบครัวแล้ว อย่างพี่ใหญ่และพี่รองของนางก็แยกบ้านออกไปแล้วเช่นกัน แต่ก็อยู่ไม่ไกลกันมาก ห่างไปเพียงสองสามหลัง

 

 

ยามนี้เป็นฤดูร้อน ทุกคนออกไปทำงานกันหมด เจียวมี่ถือโอกาสที่ไม่มีใครอยู่บ้าน เดินสำรวจสภาพความเป็นอยู่ของบ้านตระกูลโจว นับว่าครอบครัวนี้มีความเป็นอยู่ที่ดีระดับหนึ่ง ข้างบ้านมีแปลงผักเล็กๆ ถัดไปไม่ไกลมีเล่าไก่ซึ่งมีไก่อยู่ 5 ตัว เจียวมี่รู้สึกชื่นชมคนยุคนี้จริงๆ ที่สามารถใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ทำไร่ทำสวน หาของป่า ล่าสัตว์ บ้างก็เก็บผักป่า ผลไม้ป่ามากิน

 

 

ระหว่างที่นางจมไปกับความคิดก็มีเสียงดังแจ้งเตือนจากระบบพร้อมกับมีข้อความปรากฏขึ้น

 

 

ติ้ง!

 

 

[กรุณาเริ่มทำภารกิจ ท่านควรเริ่มพัฒนาทักษะชีวิตได้แล้ว ภารกิจแรก อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย ในฐานะยอดหญิง ท่านจะทำตัวสกปรกไม่ได้ โปรดทำความสะอาดร่างกายโดยด่วนเพื่อกำจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์]

 

 

“แค่ก แค่ก” เจียวมี่ถึงกับไอเมื่อเผลอสูดดมกลิ่นตัวของตนเอง อืม ร่างเดิมไม่อาบน้ำมากี่วันแล้วเนี่ย จากความทรงจำก็คงจะ…เอิ่มห้าวัน!

 

 

เป็นปลาเค็มพอดี!

 

 

เกี่ยวข้อง
เพิ่มความคิดเห็น
ความคิดเห็น